คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

อุ้มอิ้ม FM

บล็อกนี้ได้จัดทำขึ้นเพื่อใช้ในการเรียนการสอนรายวิชาอินเตอร์เน็ตและการสื่อสารในชีวิตประจำวัน ของ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม

วันเสาร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2554

การดูแลผิวหน้าขั้นพื้นฐาน

การดูแลผิวหน้าขั้นพื้นฐาน


การล้างหน้า
การล้างหน้าเป็นวิธีขจัดคราบสกปรก คราบเหงื่อ คาบเครื่องสำอาง ล้างหน้าวันละ 2 ครั้งก็เพียงพอแล้ว คือตอนเช้ากับตอนเย็น ผลิตภัณฑ์ในการทำความสะอาดผิวหน้ามีหลายชนิดให้เลือก เช่น สบู่ โลชั่น โคลด์ครีม น้ำมัน เจล หรือครีมที่ใช้กับน้ำ ควรพิถีพิถันในการล้างหน้าในตอนเย็น เพราะหน้าสัมผัสกับสิ่งสกปรกตลอดทั้งวันมากกว่าตอนเช้า
ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้ามีทั้งชนิดที่มีฟองและไม่มีฟอง ทางการแพทย์ได้พิสูจน์แล้วว่า ชนิดมีฟองทำให้เกิดสารตกค้างบนใบหน้า ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดสิวอุดตัน ผิวแห้ง หยาบ อีกทั้งสารที่ตกค้างจะเป็นตัวทำลายเซลล์ผิวอีกด้วย ผลิตภัณฑ์ควรมีค่า pH 5-5.5 เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายบอบบางคนผิวมันควรใช้แบบชนิดเจล ส่วนคนผิวแห้งควรใช้แบบประเภทโฟมสำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายบอบบางคนผิวมันควรใช้แบบชนิดเจล ส่วนคนผิวแห้วควรใช้แบบเภทโฟมสำหรับผู้ที่ล้างหน้าด้วยสบู่ ควรเลือกสบู่ที่มีความอ่อนโยนและทำให้เกิดระคายเคืองน้อยที่สุด ที่สำคัญคือถูหน้าเบาๆ
ครีมบำรุง
หลังจากทำความสะอาดผิวหน้าเรียบร้อยแล้ว บำรุงผิวให้ผิวหน้ามีสุขภาพดีดูอ่อนกว่าวัย สดใส เปล่งปลั่ง ด้วยวิธีง่าย ๆ สำหรับคุณดังนี้
ครีมวิตามิน C
นำวิตามิน C ชนิดไม่แต่งกลิ่น (ไม่ใช่แบบชนิดอม) มาบดให้ละเอียด ใช้ทีละเม็ด จากนั้นนำวิตามิน C ผงมาผสมกับครีมทาหน้า ใช้เพียงแค่ปลายเล็บ วิตามิน C ช่วยทำให้เซลล์ผิวแข็ง ลดรอยหมองคล้ำ ช่วยทำให้ใบหน้าขาว สดใส
น้ำมันมะกอก
น้ำมันมะกอกทำหน้าที่ในการนำพาโมเลกุลของน้ำในโลชั่นซึมผ่านน้ำมันหล่อเลี้ยงผิว ช่วยปกป้องผิวตามธรรมชาติ ช่วยป้องกันผิวไม่ให้ผิวสูญเสียน้ำ และปกป้องผิวจากมลภาวะภายนอกนอกจากนี้ น้ำมันมะกอกยังทำหน้าที่ยับยั้งการอักเสบของสิว ช่วยให้หัวสิวอ่อนนุ่มลง การใช้น้ำมันมะกอกได้อย่างมีประสิทธิภาพจะต้องอาศัยโมเลกุลของน้ำในโลชั่นทาผิว ช่วยให้ผิวได้รับความชุ่มชื้นอย่างเพียงพอ และช่วยป้องกันการเกิดปฏิกิริยาแอนติออกซิเดชันทำให้จุดด่างดำและฝ้าค่อย ๆ จาง


ครีมวิตามิน E
ใช้วิตามิน E ชนิดแคปซูล จากนั้นนำเข็มที่สะอาดมาเจาะบีบเอาวิตามิน E ออกมาแต่พอประมาณที่ใช้ ผสมกับครีมที่ใช้ แล้วทาลงบนใบหน้า จะช่วยทำให้ผิวไม่แห้งดูเต่งตึงและยังดูอ่อนกว่าวัยอีกด้วย
การพอกหน้า
การพอกหน้าจะช่วยขจัดสิ่งอุดตันบนใบหน้าช่วยให้เซลล์ผิวที่ตายแล้วหลุดออกไป ลดการเกิดสิว ทำให้เลือดลมที่ผิวหน้าหมุนเวียนดี ผิวจึงเนียนนุ่มชุ่มชื้น คนผิวมันเหมาะสำหรับการพอกด้วยโคลน คนผิวแห้งเหมาะสำหรับการพอกด้วยน้ำนม และผลไม้ จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว ไม่ทำให้ผิวแห้งกร้าน ส่วนผิวผสมควรพอกบริเวณทีโซน เพราะเป็นบริเวณที่ผิวมันมากกว่าปกติ ควรทำสัปดาห์ละ 1 ครั้ง
การอบไอน้ำ
การอบไอน้ำเป็นวิธีการชำระสิ่งสกปรกใบหน้าได้อย่างล้ำลึก วิธีนี้คนที่เป็นสิวใช้ได้ดีการอบไอน้ำเหมาะสำหรับทุกสภาพผิวโดยการหาน้ำร้อนมาเทใส่ชาม จากนั้นก้มหน้าลงไปให้สัมผัสกับไอน้ำทำประมาณ 10 นาที หากต้องการความสดชื่น หยดน้ำมันหอมระเหยกลิ่นมินต์ มะนาว มะกรูด (เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง) ลงไปและใช้ผ้าขนหนูคลุมศีรษะควรทำสัปดาห์ละ 1 ครั้ง
การขัดหน้า
การขัดหน้าเป็นการขัดเซลล์หนังกำพร้าที่ตายแล้วให้หลุดออกไป ผิวจะเรียบเนียนและใสขึ้น การขัดหน้าจะช่วยทำให้ครีมบำรุงผิวซึมซาบเข้าสู่ผิวได้เร็ว วิธีนี้ไม่เหมาะสำหรับคนเป็นสิว เพราะจะยิ่งทำให้สิวลุกลาม วิธีขัดให้หมุนไปรอบ ๆ ใบหน้า และลำคอเว้นรอบดวงตาและปาก ไม่ควรขัดแรง ๆ เพราะจะทำให้แสบหน้าควรทำสัปดาห์ละ 1 ครั้ง สำหรับคนผิวแห้งและผิวผสม ส่วนสำหรับคนผิวมันควรทำสัปดาห์ละ 3 ครั้ง
การมาสก์หน้า
การมาสก์หน้าเป็นวิธีหนึ่งในการรักษาผิวหน้าให้มีสุขภาพดีช่วยในการบำรุงผิวให้มีความยืดหยุ่น เต่งตึง กระชับรูขุมขนให้เรียบเนียน การมาสก์หน้ามีทั้งวิธีการใช้ครีมมาสก์ และมาสก์หน้าด้วยวิธีทางธรรมชาติ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความสะดวกและคามต้องการของผู้ใช้ ครีมมาสก์หน้ามีอยู่ด้วยกันมากมายหลายยี่ห้อหลายราคา ตั้งแต่ราคาถูกจนถึงราคาที่สูงมาก การเลือกใช้ครีมมาสก์ควรเลือกให้เหมาะกับสภาพผิวของเรา เพื่อจะได้ไม่ก่อให้เกิดผมข้างเคียง เช่น สิว ตามมา หรืออาจเกิดการระคายเคืองผิวหน้าการมาสก์หน้าด้วยวิธีทางธรรมชาตินอกจากจะไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงแล้ว ยังช่วยทำให้ผิวดูสดใสอ่อนเยาว์อย่างได้ผลดีอีกด้วย

1 ความคิดเห็น: